รายงานโครงงาน
ปก
บทคัดย่อ
สารบัญ
บทที่ 1 บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
วัตถุประสงค์
สมมติฐานของโครงงาน
(ถ้ามี)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
นิยามศัพท์
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
(ใช้ประกอบการศึกษา)
บทที่ 3 วิธีดำเนินงาน
ลำดับขั้นของกิจกรรม
วิธีการแต่ละขั้นตอน
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
สถานที่ที่ดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 5
สรุป
อภิปรายผล และเสนอแนะ
บรรณานุกรม/เอกสารอ้างอิง
ภาคผนวก
วิธีการนำเสนอโครงงาน
การนำเสนอโครงงานสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
1.
รายงานโครงงานด้วยเอกสาร
2.
การนำเสนอด้วยวาจา
3.
การนำเสนอด้วยการจัดนิทรรศการแสดงผลงาน
1. รายงานโครงงานด้วยเอกสาร
การจัดทำรายงานโครงงานเป็นการนำเสนอโครงงานด้วยเอกสาร
มีความสำคัญมากกว่าการนำเสนอด้วยวิธีการอื่นๆ
ผู้จัดทำโครงงานควรจะต้องจัดทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร
โดยจัดทำเป็นรูปเล่ม ทั้งนี้เพราะรายงานสามารถลำดับความได้อย่างเป็นระบบระเบียบ
ครอบคลุมรายละเอียดต่างๆ ได้ดีที่สุด
นอกจากนั้นรายงานโครงงานยังสามารถเผยแพร่ได้ง่าย บุคคลต่างๆ สามารถนำไปศึกษา ณ
ที่ใดก็ได้มีการจัดทำ 2 ลักษณะ คือ รายงานโครงงานฉบับสมบูรณ์
และรายงานโครงงานฉบับสรุป
รายงานโครงงานฉบับสมบูรณ์
รายงานโครงงานไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว
ซึ่งมีหัวข้อดังต่อไปนี้
1.
บทคัดย่อ คือ
การกล่าวถึงโครงงานโดยสรุป ซึ่งจะครอบคลุมเนื้อหา 3 ประการ คือ เหตุจูงใจในการทำโครงงาน วิธีการดำเนินงานและผลที่ค้นพบ
บทคัดย่อมีประโยชน์ในการช่วยให้ผู้สนใจโครงงานได้เห็นภาพรวมของโครงงานได้อย่างรวดเร็ว หากสนใจโครงงานนั้นจริงๆ จึงไปศึกษารายละเอียดภายในเล่มต่อไป
หากอ่านบทคัดย่อแล้วพบว่า
ไม่ตรงกับความต้องการก็ไม่ต้องเสียเวลาไปศึกษารายละเอียดภายใน เล่มนั้นอีก
จะได้ไปศึกษาโครงงานอื่นที่ตรงกับความต้องการของตนต่อไป บทคัดย่อโดยทั่วไปมีความยาว 6-8 บรรทัด
2.
ความเป็นมา คือ
การกล่าวถึงเหตุจูงใจในการเลือกทำโครงงานนั้น เช่น เห็นว่าเป็นปัญหา
อยากหาหนทางหรือวิธีการแก้ไข
หรือมีความสงสัยต่อเรื่องนั้น หรือเห็นว่าน่าจะมีหนทางพัฒนาวิธีการ ขั้นตอนหรือเครื่องมือนั้นได้ด้วยวิธีการของผู้ทำโครงงาน
3.
ความสำคัญ คือ การกล่าวถึงความสำคัญของโครงงานที่ศึกษาว่าข้อค้นพบที่ได้จะมีความสำคัญ
หรือมีประโยชน์อย่างไรกับใครบ้าง
4.
วัตถุประสงค์
กล่าวถึงการดำเนินโครงงานนั้นว่าทำโครงงานนั้นเพื่อหาคำตอบใดบ้าง ควรเขียนให้ชัดเจนถึงโครงงานที่จะศึกษาเป็นข้อๆ เช่น
- เพื่อศึกษาว่า………………………………………………..
- เพื่อศึกษาว่า………………………………………………..
5.
เนื้อหาความรู้ที่เกี่ยวข้องนักเรียนจะต้องบอกไว้ด้วยว่าโครงงานของนักเรียนใช้ความรู้เรื่องอะไรบ้าง นักเรียนควรเขียนไว้ให้หมด
เพื่อให้เห็นว่าโครงงานของนักเรียนเป็นโครงงานที่มีคุณค่า
ใช้วิชาความรู้หลายๆ ด้านมาประกอบกันในการหาคำตอบ
เช่น
โครงงานเรื่องของเหลวเมื่อเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งจะมีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
ความรู้ที่ต้องใช้มีดังต่อไปนี้
- การชั่ง
- สถานะของสสาร
- การทำให้ของเหลวเปลี่ยนสถานะ
- การบวก การลบ จำนวนทศนิยม
- การเปรียบเทียบทศนิยม
- การออกแบบตารางและการบันทึกข้อมูลในตาราง
6.
การดำเนินงาน
เป็นการกล่าวถึงวิธีการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มโครงงานจนงานสำเร็จ
ในการเขียนนักเรียนควรระบุสิ่งที่นักเรียนควบคุมหรือสิ่งที่นักเรียนต้องระมัดระวังเรื่องที่จะเข้ามาแทรกซ้อนที่จะเข้ามามีผลต่อโครงงานของนักเรียนด้วย
นั่นคือ รายละเอียดของเรื่องนิยามศัพท์ (ถ้ามี)
ขอบเขตของโครงงาน
ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรที่ต้องควบคุม วิธีเก็บข้อมูล วิธีวิเคราะห์ข้อมูล
ตลอดจนวิธีดำเนินงานร่วมกันกับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือกับบุคคลอื่นควรเขียนรวมไว้ด้วย
รวมทั้งอาจแสดงแผนการดำเนินงานและวัสดุอุปกรณ์หรืองบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน การเขียนควรเขียนเป็นข้อๆ และมีการลำดับขั้นตอนที่ดี
7.
ผลการดำเนินงานกล่าวอย่างละเอียดว่าเรื่องใดมีข้อค้นพบอย่างไร
ควรกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ถ้าข้อมูลสามารถใส่ในตารางได้ นักเรียนควรออกแบบตาราง นำข้อมูลใส่ในตาราง จะทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น หรืออาจทำเป็นแผนภูมิหรือกราฟ
แล้วแต่ความเหมาะสม
ข้อมูลของผลการดำเนินงานควรนำไปสู่การสรุปผล
8.
สรุปผล เป็นการสรุปผลข้อค้นพบ ควรสรุปให้สามารถตอบจุดประสงค์ให้ครบทุกข้อ
ถ้าวัตถุประสงค์ตั้งไว้ 2 ข้อ ก็ควรสรุปผลตอบให้ได้ครบทั้ง 2 ข้อ
9.
ข้อเสนอแนะ จะเป็นการเขียนแนะนำผู้อ่าน เช่น โครงงานต่อไปควรทำเรื่องใด
โครงงานที่ทำนี้นักเรียนเห็นว่าน่าจะนำไปใช้ประโยชน์เรื่องใดได้บ้าง
หรือแนะนำว่าถ้าผู้อื่นจะทำโครงงานในลักษณะใกล้เคียงกันจะต้องระมัดระวังเรื่องใดบ้าง
10. เอกสารอ้างอิง
เป็นการเขียนบอกแหล่งค้นคว้าข้อมูลทั้งการค้นคว้าจากเอกสารและ การสัมภาษณ์ผู้รู้ต่างๆ ครูควรแนะนำให้นักเรียนเขียนให้ถูกต้องตามหลักการอ้างอิง
ซึ่งโดยทั่วไปมีลักษณะ ดังนี้
ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ.
ครั้งที่พิมพ์. จังหวัดที่พิมพ์ :
ชื่อโรงพิมพ์. ปีที่พิมพ์.
รายงานโครงงานฉบับย่อ
รายงานโครงงานฉบับย่อเหมาะสำหรับกรณีต่อไปนี้
1. นักเรียนเล็กยังไม่สามารถเขียนเรียบเรียงได้
2.
นักเรียนที่ไม่ชอบการเขียนหรือมีปัญหาเรื่องการเขียนเรียบเรียง
3.
ใช้รายงานเบื้องต้น เพื่อนำเสนองานต่อครูและเพื่อนในชั้นเรียน
เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ นำมาปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
4.
ใช้เผยแพร่ประกอบการจัดนิทรรศการแก่ผู้มาชมนิทรรศการ
รูปแบบของรายงานโครงงานฉบับย่อ แล้วแต่ครูและผู้ทำโครงงานจะกำหนด
แต่ควรให้ผู้อ่านได้รับทราบว่าโครงงานนั้นจัดทำขึ้นเพราะเหตุใด
มีวิธีการดำเนินงานอย่างไร
ผลเป็นอย่างไรและมีประโยชน์อย่างไร
2. การนำเสนอด้วยวาจา
มักใช้นำเสนอให้คนเป็นจำนวนมากได้รับฟัง
เช่น การนำเสนอหน้าชั้นเรียน นำเสนอต่อกลุ่มผู้สนใจ นำเสนอต่อที่ประชุม
นำเสนอต่ออาจารย์ การนำเสนอด้วยวาจา อาจมีการแจกรายงานโครงงานประกอบ
หรืออาจจัดทำเพียงสรุปแจก หรืออาจมีผลผลิตที่ได้จากการทำโครงงานประกอบ
หรืออาจมีการใช้ ICTประกอบการนำเสนอด้วยวาจา มีข้อดี
คือ ผู้ทำโครงงานสามารถชี้แจงข้อสงสัยแก่ผู้มาฟังได้ทันที
และสามารถรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้รับฟังได้ทันทีด้วยเช่นเดียวกัน
แต่มีข้อจำกัดสำหรับบุคคลที่ไม่ถนัดหรือไม่ชอบพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก
อาจทำให้การชี้แจงไม่สมบูรณ์หรือทำให้ผู้ฟังไม่เข้าใจ หรือเข้าใจโครงงานนั้นผิดพลาด
คลาดเคลื่อนไปได้ ดังนั้นนักเรียนควรตรวจสอบการเตรียมการให้ดี
ซึ่งจะทำให้นักเรียนมีความมั่นใจและมีกำลังใจมากขึ้น